เป็นสวนสนุก แหล่งพักผ่อนที่มีชื่อแห่งหนึ่งของเกาหลีใต้ หากใครชอบแนวนี้น่าจะต้องจัดไว้ในโปรแกรมด้วย
การเดินทาง ให้ขึ้นหรือต่อ Subway Line 2 (สายสีเขียว) มาลงที่สถานี Gangnam จากนั้นมองหาทางออกที่ 6 (กลับหลังหัน) เดินย้อนไปประมาณไม่เกิน 100 ม. ป้ายรถเมล์จะอยู่ตรงกลางถนนให้ข้ามถนนไปขึ้นสาย 5002 ซึ่งจะเดินทางไปลง Everland จากนั้นต้องต่อรถ Shuttle bus ไปยังสวนสนุกอีก 5 นาที
ค่ารถ 1,300-1,600วอน
ใช้เวลาเดินทาง 50-60 นาที
ความประทับใจแรกที่เห็น
คือทำออกมาให้ดีครับ ด้วยสภาพอากาศที่ผมไป และ location ที่ตั้งอยู่ในเหมือนหุบเขา ประกอบกับดอกพดกรด หรือ ซากุระเบ่งบานเต็มพื้นที่ทำให้บรรยากาศหน้าเดินเล่นกับคู่รักจริงๆ
ค่าตั๋วเข้าชม สามารถซื้อได้เป็นรายวันและ 2 วัน ซึ่งผมว่าถ้าเอาครบจริงๆต้องมีสองวันเหมือน Disneyland ครับ
การวางแผนการเล่น
ความที่ว่าพื้นที่มีกว้างขวาง หากเรามีเวลาจำกัดจำเป็นต้องวางแผนการเดินทางไปยังจุดต่างๆให้ดี เพราะจะได้ไม่เสียเวลา อย่างที่ทัวร์ผมใช้ก็คือ เริ่มจากด้านในก่อนแล้วเดินเลือกออกมาเรื่อยๆจะได้ถึงทางออกแบบยังเดิน 2 เท้าได้อยู่ ไม่งั้นขาจะลากก่อนไปเที่ยวที่อื่นๆ
โดยที่นี่มีเวบให้ข้อมูล แบ่งเป็นประเภทการเล่นแบบต่างๆ ทั้งคู่รัก ครอบครัว เด็กๆ หรือเน้นสยองขวัญสั่นประสาท
http://www.everland.com/web/multi/english/everland/everland_guide/coureses/Recommended_courses.html#none
และด้วย ประชากรชาวเกาหลีที่มีจำนวนมากมายในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ผมก็ไม่เข้าใจทำไมทัวร์ต้องจัดลงวันนี้ด้วย ทำให้การต่อคิวค่อนข้างหลายรอบและเวลาที่มีให้เพียง 2 ชม. ผมแทบไม่สามารถเล่นอะไรได้เลย คิดว่าต้องกลับมาเก็บครับ
เครื่องเล่น
เนื่องจากผมได้ลองไม่กี่อย่าง และระบบการต่อคิวที่นี่ยัง manual เอามากๆคือต้องเข้าไปยืนรอต่อคิว ข้อควรระวังก็คือ การมองด้านนอกอาคารไม่ได้บอกถึงจำนวนคนที่ต่อคิวกันอยู่แล้ว เพราะภายในยังมีโถง พร้อมจัดเรียงคนเพื่อรอเล่นอีก บางจุดมีแค่ห้องเดียวคุณยังพอเดาเวลาได้บ้าง แต่บางจุดที่ผมไปต่อ ผ่านห้องแรกไปนึกว่าจะได้เล่น ดันมีห้องที่สองต่อไปอีก เลยต้องเดินออกไปเลยเพราะรอไม่ไหวแล้ว
เครื่องเล่นที่เป็น Highrlight ของที่นี่จะเป็น รถไฟเหาะรางไม้ เห็นตอนแรกผมจะไปลองเล่นแต่คิวเยอะมากๆไม่ไหว บวกกับความกลัวในใจนิดๆด้วย เพราะแอบหน้ากลัวด้วยความที่มันใหญ่ และโหด แถมรางเป็นไม้จริงๆ เลยแอบหวั่นๆกับตัวโครงสร้างที่มีแรงมากระทำ
โซนนิ่ง
ทั้งโครงการแบ่งภาพรวมออกเป็น 5 โซนคือ Global fair, American adventure, Magic land, European Adventure และ Zootopia
เป็นพื้นที่ตกแต่งไปด้วยอาคาร และสถาปัตยกรรมหลากหลายรูปแบบ เช่น
เป็นพื้นที่ที่ถูกออกแบบจากธีมของประเทศอเมริกาเมื่อ 500 ปีก่อน ตั้งแต่โคลอมบัสเจอทวีป จนกระทั่งไปถึงยุคของ Elvis Presley, the "King of Rock 'n' Roll
พื้นที่ที่ชูจุดขายเป็นหมู่บ้านสไตล์ยุโรป รวมกับทุ่งดอกไม้ที่กว้างใหญ่และหมุนเวียนตลอดทั้งปี ในคอนเซบต์ "สวน 4 ฤดู"
เป็นสวนที่ผมไม่ได้ผ่านเลยเค้าบอกว่า คุณจะสัมผัสถึงสายสัมพันธ์ระหว่างสัตว์กับมนุษย์ผ่านการเดินทางที่จะไม่มีวันลืมได้
อาหารการกิน
ผมนั่งเล่นตรงหมู่บ้าน ฮอลแลนด์ ซึ่งตอนไปมีดอกไม่สวยงามมาก และผู้คนเยอะแยะมากมาย บรรยากาศสุดแสนครึ๊กครื้น สร้างสีสันและอารมณ์ร่วมไปกับงานได้อย่างดี
ราคาอาหารกลางๆ สามารถรับได้ถ้ามองว่าไปเที่ยว ผมกินไม่กี่อย่าง แต่ละอย่างก็อร่อยใช้ได้เลย มีเบียร์สดของที่นั่น ผมไม่แน่ใจยี่ห้อ ถูกมากๆ แนะนำลองนั่งกินและชมบรรยากาศ ฟังเพลงดูครับ
Tags:
food&travel