เดินชม Santa Monica

นับว่าเป็นสถานที่เที่ยวแรกๆเลยสำหรับผมที่มาถึงที่นี่ใหม่ๆ ด้วยความที่ว่ามันไม่ไกลมากจากตัวเมือง Los Angeles แต่สำหรับผมก็ไกลอยู่นะ

สำหรับ Santa Monica State Beach เป็น California State Park ซึ่งบริหารโดย city of Santa Monica.

ชายหาดวางตัวทอดยาวตามชายฝั่ง  Pacific Coast ราว  3.5 miles โดยบริเวณพื้นที่จะมีสิ่งต่างๆ เช่น สวนสาธารณะ, พื้นที่สำหรับ, สนามเด็กเล่น, ห้องน้ำ (ซึ่งฟรี แต่ไม่รับประกันความสะอาด) และ lifeguard stations หลายคนมาเดินเล่น มาออกกำลังกาย เช่น วิ่ง ขี่จักรยาน บางคนก็มาเล่น volleyball, surfing, stand up paddleboarding และว่ายน้ำ 

image from http://en.wikipedia.org/wiki/Santa_Monica_State_Beach

ชายหาดนี้มาไม่ยาก สามารถนั่งรถบัสมาถึงได้เลย มีรถบัสสายด่วนที่ผมนั่งคือ สาย 720 มาจอดที่หาด เดินเรือยๆเรียบถนนใกล้ๆ หาด ซึ่งเราจะเป็นทิวทัศน์ของชายหาดที่เคยฟู่ฟ่าแห่งหนึ่งของฝั่งตะวันตกนี้ ชายหาดนี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญในการสร้างเมืองและดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกมากว่า 200 ปี 

ตัวหาดไม่สวยเหมือนที่ไทยบ้านเรา อารมณ์ทรายน่าจะบางแสน แต่ด้วยความี่หาดยาว คลื่นและลมแรง จึงมีกิจกรรมต่างๆ รอบๆ หาดเต็มไปหมด 

ที่ท่าเรือ Santa Monica เป็นท่าเรือที่มีกิจกรรมร้านอาหาร และเครื่องเล่นสวนสนุกมากมาย ผู้คนหลากหลาย เป็นสีสันที่นี่ รวมไปถึงการตกปลาด้วย ที่นี่ผมได้เจอแมวน้ำ มาปัวนเปี้ยนแถวๆส่วนที่ตกปลา ราวกับรู้และจะมาแย่งอาหาร

ส่วนตัวผมชอบหาดที่นี่ แม้ว่าหลายๆคนจะมองว่ามันเฉยๆ แต่ว่ามันเหมือนกับทุกอย่างยังมีความเป็นอดีต มีชีวิต และรู้ได้ถึงกระแสของกาลเวลาที่ผ่านมานาน

เป็น deck ไม้ เพื่อเป็นจุดชมวิวรอบหาด

วงดนตรีที่เล่นสไตล์เฉพาะทาง สร้างสีสันให้กับหาดบริเวณรอบๆ มีอีกหลายวงมาก และก็ขายแผ่นเองด้วย

History of Santa Monica

1542: Juan Rodriquez Cabrillo ได้เดินทางมาถึง Santa Monica Bay

1769: บาทหลวง Juan Crespi -- a Franciscan in Gaspar de Portola’s คณะเดินทาง ได้แรงบันดาลชื่อจาก Saint Monica 

1770: Saint Monica’s เปิดประเทศภายใต้กฏหมายของประเทศ Spain

1828: Mexico เป็นอิศระจากประเทศ  Spain และได้แบ่งดินแดน เป็นสามส่วน  ภายใต้ชื่อ Rancho San Vicente y Santa Monica, Rancho Boca de Santa Monica และ and Rancho La Ballona.

1850s: Santa Monica กลายมาเป็นสถานที่สำหรับหลบหนาวของคนฝั่นงตะวันตกที่ร่ำรวย ซึ่งตอนนี้เศษรฐกิจของที่นี่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว 

1872: Col. Robert S. Baker แห่ง Rhode Island ซื้อพื้นที่  Rancho San Vicente ใน Santa Monica จำนวน 38,409-acre เป็นเงินถึง$54,000; ในขณะที่ ภรรยาเขา Dona Arcadia Bandini de Baker ได้ซื้อที่ซึ่งในปัจจุบันเป็น  Pacific Palisades เป็นเงินถึง $40,000.

1874: วุฒิสมาชิก Nevada  ชื่อ John Percival Jones ผู้ซึ่งถูกเคารพว่าเป็น  founder ของ Santa Monica ได้เข้าซื้อและดูแลต่อจาก  Rancho Santa Monica เป็นเงิน $162,000.

1875: Santa Monica เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น; Colonel Baker และ วุฒิสมาชิก Jones วางผังเมือง โดยให้ความสำคัญรวมไปถึง parks ที่ใหญ่มากพอ และแหลมที่ยื่นลงไปในทะเล

1875:  Jones บริจาคพื้นที่  26-acre ของPalisades Park ให้เป็นของสาธารณะ  หลังจากนั้นบ้านพัก หลังแรกก็ถูกตั้งราคาขายถึง  $300. และใน 9 เดือนถัดมา พื้นที่รอบ  seaside sanctuary ก็มีประชากรถึง 1,000 คน

1886: The opulent Arcadia Hotel, หนึ่งในหลายๆโรงแรมที่ยิ่งใหญ่ ของ Southern California ถูกสร้างขึ้น

1887: The city of Santa Monica is ถูกก่อตั้งขึ้น -- เป็นพื้นที่ 8.3 ตารางไมล์ 

1888: “Miramar” ซึ่งเป็นแมนชั่นที่มีชื่อเสียงแรกๆของ Senator Jones ถูกสร้างขึ้นในเมือง บริเวณ Ocean Avenue ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญ ของ Miramar Moreton Bay Fig Tree

1893: ท่าเรือ Santa Monica’s ถูกสร้างขึ้น ซึ่งเป็นท่าเรือที่พลุกพล่าน และเป็นท่าเรือที่สำคัญของเมืองจนกระทั่งปี 1903.

1909: ท่าเรือ Santa Monica’s ได้เปิดทำการ ในตอนนี้ก็ยังเป็นท่าที่เก่าแก่และเป็นความภาคภูมิใจของฝั่ง  West Coast ที่เชื้อชวนผู้คนโดยเฉพาะพวกสอนศาสนาจากต่างประเทศมาเป็นจำนวนมาก 

1910: Ocean Park Bath House ถูกสร้างขึ้น กลายเป็นสถาปัตยกรรมตกแต่งประดับชายหาด ตรงข้าม ท่าเรือสุดหรู Million Dollar Pier ก็ถูกสร้างขึ้น (แต่ถูกรื้อถอนในปี 1970).

1920: Santa Monica เป็นที่ได้รับความนิยมของผู้มีเงินมากๆ ประชากรก้าวสู่จำนวน  37,000 คน.

1920: นักบินบุกเบิกชื่อ Donald W. Douglas, Sr., ก่อตั้งบริษัท Douglas Aircraft ขึ้น ซึ่งภายหลังได้สร้างงานมากมายในช่วงส่งคราวโลกครั้งทีสอง 

1922: ศิลปิน Will Rogers ได้รับที่จำนวน 345 acres ใน Rustic Canyon และสร้างฟาร์มม้า และสนาม  polo สำหรับ Spencer Tracy, Robert Montgomery และ Walt Disney.

1924: Senator Jones แมนชั่นได้เติบโตมาเป็น  grand Miramar Hotel.

1924: นักเต้นจากทั่วโลก จำนวนกว่าหมื่นคน มาชุมนุมกันใน  La Monica Ballroom ซึ่งสร้างด้านล่างของท่าเรือ 

1925: Santa Monica’s หรือ “Gold Coast” becomes hot ยังคงเป็นที่นิยม ; Greta Garbo ได้จดทะเบียน Miramar Hotel เป็นอสังหาแรกของสหรัฐa 

1926: William Randolph Hearst สร้าง Marion Davies แมนชั่นสไตล์  Georgian (55 ห้อง, 37 fireplaces) บนชายหาด Will Rogers 

1934: Muscle Beach จุดประกาย ความคลั่งการออกกำลังกายบนหาด Santa Monica State เป็นช่วงสั้นๆช่วงเวลาหนึ่ง

1955: Santa Monica ตกทอด Will Rogers’ 345-acre State Historic Park.

1980s: Santa Monica ได้รับความนิยมว่าเป็นสถานที่ดินเนอร์หรูหราสุดฮอท รวมไปถึงการเปิดโรงแรงชั้นหนึ่งถึงสองที่ริมหาด  

1984: ท่าเรือได้รับการบูรณะ เป็นเงินถึง 45 ล้านเหรียญ และปรับปรุงม้ายหมุนที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ 

1989: เปิดตัว Third Street Promenade เพื่อตอนรับนักท่องเที่ยว 7,000 คนต่อวัน

1999: ชายหาดได้ถูกออกแบบใหม่เพื่อตอนรับสหัศวรรษ รวมไปถึงการสร้างหาดในตำนวนใหม่ Muscle Beach, การปรับปรุง Palisades Park และเปิดตัว beachfront hotels ใหม่ถึงสองแห่ง

2001: ปรับปรุงขนส่ง Big Blue Bus Downtown 

2002: ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวมหม้เปิดขึ้นใน Santa Monica Place Mall เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและประชาชน s

2005: Santa Monica Convention & Visitors Bureau ย้ายมายัง Main Street.

2007: เฉลิมฉลอง 25 ปี Santa Monica Convention & Visitors Bureau 

2009: เฉลิมฉลอง 100 ปี Santa Monica Pier 

2010: เปิดตัว Santa Monica ใหม่