Experience using mechanical keyboard

ผมมอาจจะไม่ได้เล่าว่า Mechanical keyboard คืออะไรนะครับ เพราะคิดว่าถ้าคุณมาถึงหน้าที่คุณน่าจะพอทราบคร่าวๆ แล้ว 

ก่อนหน้าเข้าวงการผมมีความอยากได้มันมากๆ รู้สึกว่าเสียงมัน Satisfied สุดๆ แต่แบบเนื่องจากการ Setup โต๊ะไม่ค่อยเป็นใจเพราะอาชีพผมเปลี่ยนโต๊ะทำงานบ่อย และทำงานตาม Site ของลูกค้า การจะแบกอุปกรณ์ไปมาก็ไม่สะดวกแน่นอน




ช่วงโควิดเป็นช่วงที่ทำงานที่บ้าน ผมเริ่มมีการซื้อ จอ extension หรือจอต่ออกเพิ่มมาใช้ ทำให้ชีวิตผมสบายมาก ไม่ต้องก้มหน้าก้มตาทำงานอีกต่อไป แต่เงยหน้าทำงานหนักเหมือนเดิม 🤭 พอมีการใช้จอนอก แน่นอนคุณต้องเริ่มมองหาอุปกรณ์ถัดๆไป ผมเห็นน้องคนนึงในทีมถือ Mechanical Keyboard สักตัว แล้วพอได้ยินเสียงได้ลองกด ผมคิดว่าผมน่าจะชอบมันแน่ๆเลย จากวันนั้นเลยตัดสินใจซื้อKeyboard ต่อเพิ่มโดยที่ไม่ได้รู้ว่ามันไม่ใช่ Mechanicla Keyboard




Logitech MX Keys for Mac


เป็นตัวแรกที่ผมซื้อมาลองใช้ ชอบมาก พิมพ์ได้รวดเร็วเท่าๆกับ keyboard MacBook Pro ที่ใช้อยู่แต่สามารถเชื่อมต่อiPad และ iphone ได้ โดยการแค่กบปุ่มสลับ

จุดที่ผมไม่ชอบ
  • ใหญ่ไป มันค่อนข้างยาวและส่วนที่เป็น Numpad และหลายปุ่มใกล้ๆกัน ผมไม่ค่อยได้ใช้ มันเลยทำให้พื้นที่บนโต๊ะเสียไป และระยะห่างของแขนที่ต้องใช้ mouse ด้วย กว้างเยอะเกินไป
  • ไม่มี Key Thai คือส่วนใหญ่ผมทำงานภาษาอังกฤษอยู่แล้วก็เลยไม่ค่อยมีปัญหาอะไร มันเริ่มมีปัญหาตอนจะใช้ผมจำไม่ได้ว่าอะไรอยู่ไหน และก็พิมพผิดพิมพ์ถูก ทำให้เสียเวลามาก สุดท้ายไปหาสติกเกอร์ภาษาไทยมาติด ช่วยได้แปปนึง แต่พอไม่นานฟิลม์ด้านที่เคลือสติกเกอร์ภาษาไทยมันเริ่มลอก ทำให้มันมีความเงาของสติกเกอร์ออกมา มันทำให้ผมรู้ว่าทำไมมันต้องเคลือบด้าน เพราะพอมันเงา มันสะท้อนกับไฟในห้องและไฟที่จอมอนิเตอร์ทำให้มองไม่เห็นตัวอักษรบน keyboard เลย
  • เหตุผลสุดท้ายคือ มันไม่ใช่ Mechanical keyboard มันไม่ได้ให้เสียงที่ผมชอบ หรืออยากให้มันมี มันเงียบมากๆ ซึ่งตอนนั้นผมยังไม่รู้ว่าจริงแล้วผมชอบแค่ได้ยินเสียงแต่ไม่ได้เหมาะกับมัน

และนั้นเป็นเหตุผลที่ผมเริ่มมองหาข้อมูลใหม่ และมองหา Mechanical Keyboard จริงๆ




Keychron K3 v2



เป็นตัวที่ผมตื่นเต้นมากตอนได้มา มันคือMechanical keyboard ที่ผมอยากได้ แต่ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าโลกของ Mechanical คือมันมี Low profile และ Hi profile ตัวที่ผมซื้อมันคือ low profile แน่นอนมันพิมพ์พอได้ แต่มันเทห์ตรงไฟที่มันมีหลายรุปแบบ ไฟตอบสนองต่อการพิมพ์ในหลายๆ Pattern

น้ำหนักเบา และเล็กกระทัดรัดกว่า Logitech MX มากๆ


จุดที่ผมไม่ชอบ
  • เรื่องของการพิมพ์ใช้งาน ผมชอบ Logitech MX มากกว่า เพราะ เนื่อง ความสูงของตัวแป้น และนิ้วที่ผมอาจจะใหญ่ ทำให้จังหวะยกนิ้มมันไปเกี่ยวกับปุ่มข้างๆบ่อยๆ แต่เรื่องระยะการกดลงไม่แย่มาก พอได้ความรู้สึกและเสียงของ Optical Switch ซึ่งตอนหลังผมก็มารู้ว่ามันมีอีกแบบคือ Tactical Switch ที่จะให้เสียงที่ผมชอบมากดว่า
  • เสียง แน่นอนมันเป็น Opticla switch เสียงมันดังสู้ Tactical ไม่ได้อยู่แล้ว อีกอย่างคือตัวที่ผมซื้อคือ Brown switch ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่าง Red switch (เสียงเบาสุด) และ Blue switch (เสียงดังสุด) ทำให้มันไม่ค่อยสุดเท่าไร
  • ไฟ เอาจริงๆพอใข้มันรำคาญ 5555 แล้วมันทำให้แบตหมดไว ผมรู้สึกไฟธรรมดาๆ อย่าง Logitech MX ดีกว่า เพราะผมเน้นใข้งาน
สุดท้ายไม่ได้ซีเรียส แต่แค่ FYI ฝุ่นและขยะ เนื่องจากความเป็น Low profile ที่มีช่องว่างระหว่างแต่ละ Key อยู่ประมาณนึง ฝุ่นก็มักจะตกลงไป รวมถึงเศษขนมๆเล็กๆ ทำให้ต้องแกะมาทำควา สะอาดเสมอๆ อย่าไปคิดว่าแปรงผ่านๆจะสะอาดพอ



RK - Royal Kludge RK100




ทั้งสองตัวก่อนหน้าไม่ตอบโจทย์ ต้องขายออกทั้งหมด แต่ก่อนจะขายหมด พาแฟนไปเดินร้าน Mechanical keyboard ที่เป็น Hi profile ปรากฏว่าเค้าชอบมาก ผมคิดว่างั้นก็ลองซื้อมาเลยจะได้รู้เพราะน่าจะถือว่าลองมาหมดแล้ว ถ้าไม่นับ Switch สีต่างๆ ก็เลยถอย RK - Royal Kludge มาลอง ปรากฎว่าแฟนชอบมาก ด้วย Layout ที่มีให้เบือกหลานหลาย และเค้าสามารถเลือกแบบที่เค้าต้องการคือ 75% (ตัวkeyหลัก บวกกับ numpadเท่านั้น) และเสียงก็เป็นแบบที่เค้าและผมชอบ

จุดที่ผมไม่ชอบ
  • ใหญ่และหนัก การมีเข้า Keyborad นี้บนโต๊ะที่ไม่ได้ใหญ่ทำให้ 'รู้สึก' กินพื้นที่ไปมากๆ เวลาเลื่อนมาก็ต้องยกสูงขึ้นกว่าปกตินิดนึง เก้าอี้ท่านั่งก็ต้องปรับความสูงใหม่ แต่นี่เป็นความรู้สึกล้วนๆนะครับ และใช้งานไม่กี่นาที
  • มันยาวเกินไป  ที่ผ่านมาก็ถ้าไม่ยาวและบางแบบ MX ก็จะหนาแต่สั้นแบบ Kychron K3 แต่เจ้า RK มันทั้งใหญ่ หนา และหนัก ตอนนี้อาจจะมีคนคิดว่าผมก็ไปหา Layout สั้นๆที่ผมชอบ แค่ผมบอกได้เลยว่าผมก็อาจจะไม่ชอบมันอยู่ดีเพราะมันคล้ายกับKeychron K2 ที่ผมไม่ลองที่ร้าน และคิดว่ามันก็น่าจะคล้ายกัน
  • ปุ่มที่ต้องกดลึกขึ้น แน่นอนเสียงที่เพราะมันก็ต้องแลกมาด้วยอะไรบางอย่าง แต่ผมเลือกความรวดเร็วในการทำงาน ถ้าคนเล่นเกมอาจจะเลือกเสียง ดังนั้นผมก็เลยคิดว่าน่าจะไม่เหมาะกับผม






สรุปลอง Keyboard มา3ตัวสามรูปแบบ ชอบ MX มากที่สุดถึงแม้ว่าเสียง Real Mechanical มันจะดีแค่ไหน แต่ Keyboard คือเพื่อมาใช้งาน ถ้ามันทำงานแล้วไม่ถนัดหรือช้า ก็ต้องไปใช้ที่มันถนัด ตัวต่อไปที่เล็งคือ MX key mini แต่กำลังสู้กับเหตุผลอื่นๆของตัวเองอยู่




โต๊ะทำงานตอนนี้ก็เอา Macbook Pro ซ้อนจอไปด้านหลังจอ Extension แล้วก็ใช้ Keyboard ติดเครื่อง รวมไปถึงไมค์และลำโพงด้วย เพราะว่ามี Meeting แทบทั้งวัน


Post a Comment

You can share any idea here.......

Previous Post Next Post

Contact Form