อารมณ์รวมหมู่และการเคลื่อนไหวทางสังคม Collective Emotions and Social Movements

เคยไหมที่เวลาเกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่น่าสะเทือนใจในข่าวผู้คนจะออกมาแสดงความโศกเศร้าเสียใจร่วมกัน หรือเมื่อมีงานเฉลิมฉลองระดับชาติผู้คนจะออกมาแสดงความตื่นเต้นยินดี หรือภาพที่เราเห็นทีวีเกี่ยวกับรการต่อต้านหรือสนับสนุนประเด็นทางสังคมผู้คนจะมีความรู้สึกร่วมแม้ในบางครั้งอาจจะไม่ได้เกิดผลกระทบกับเราเองโดยตรง

บทความเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจาก Hidden Brain Podcast Podcast Emotions 2.0: When I Feel What You Feel

ในบริบทของพฤติกรรมเศรษฐศาสตร์ (Behavioral Economics) อารมณ์รวมหมู่เป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจยิ่ง ตัวอย่างใกล้ตัวคนไทย เช่น การระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ หรือการรวมตัวสวมใส่เสื้อเหลืองเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อในหลวง รัชกาลที่ 9 เป็นภาพตัวอย่างที่ชัดเจนของอารมณ์รวมหมู่




Jargon ที่น่าสนใจ:

  1. Emotional contagion - การแพร่กระจายทางอารมณ์ เป็นกระบวนการทางจิตวิทยาที่อารมณ์และความรู้สึกสามารถ "ติดต่อ" หรือ "แพร่กระจาย" ระหว่างบุคคลในกลุ่มอย่างรวดเร็ว เช่น เสียงหัวเราะติดต่อกันในงานเลี้ยง ความวิตกกังวลแพร่กระจายในสถานการณ์วิกฤต การแสดงอารมณ์ร่วมกันในคอนเสิร์ตหรือการแข่งขันกีฬา
  2. Group polarization - การสร้างความขั้วทางความคิด เป็นกระบวนการที่กลุ่มคนมีแนวโน้มจะมีความคิดเห็นที่สุดโต่งหรือเลือกข้างมากขึ้นหลังจากการอภิปรายร่วมกัน โดยกลไกมันคือ การได้รับข้อมูลที่เลือกสรร (Selective Information Processing) การเสริมแรงทางสังคม (Social Reinforcement) และแรงกดดันเพื่อให้เป็นที่ยอมรับ (Conformity Pressure) ตัวอย่าง เช่น  กลุ่มการเมืองที่มีความคิดเห็นสุดโต่ง หรือ Social Media ที่มีการปิดกั้นความคิดเห็น
  3. Herd behavior - พฤติกรรมฝูงชน หรือการกระทำของบุคคลที่ถูกอิทธิพลจากกลุ่ม โดยไม่คำนึงถึงเหตุผลส่วนตัว กลไกทำงาน คือการลอกเลียนแบบโดยไม่ตั้งคำถาม ความกลัวการถูกแยกออกจากกลุ่ม ตัวอย่างเช่น การซื้อหุ้นตามกระแส การตื่นตระหนกในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ หรือการรวมกลุ่มประท้วงโดยขาดการไตร่ตรองด้วยตัวเองอย่างดีพอ

กลไกทางพฤติกรรมเศรษฐศาสตร์ชี้ให้เห็นว่า อารมณ์รวมหมู่สามารถส่งผลต่อการตัดสินใจและการกระทำของปัจเจกบุคคลอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อบุคคลอยู่ในสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนหรือต้องการการยอมรับจากสังคม


อารมณ์รวมหมู่ (Collective emotions) 

เป็นปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาสังคมที่เกิดขึ้นเมื่อบุคคลในกลุ่มหรือสังคมแสดงอารมณ์คล้ายคลึงกันหรือตอบสนองทางอารมณ์ร่วมกัน ซึ่งอาจเกิดขึ้นในหลายบริบท


Group Emotions' Impact:
กระบวนการกลุ่ม (Group processes) ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของปัจเจกบุคคลในทางที่ไม่คาดคิด เมื่อเรามีประสบการณ์อารมณ์ร่วมกันเกิดขึ้น ความเข้มของการรับรู้อารมณ์แบบรวมหมู่มักจะขยายความรู้สึกของเราให้ทวีคูณขึ้น ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะเรามักให้ความสนใจกับบุคคลที่แสดงอารมณ์อย่างเปิดเผยในกลุ่มชน ส่งผลให้เราไม่รู้ตัวว่ากำลังสมมติว่าสภาวะอารมณ์ที่รุนแรงของคนเหล่านั้นเป็นของกลุ่มทั้งหมด ผลของการ "ทวีคูณ" นี้อาจมีผลกระทบอย่างกว้างขวาง 
การสร้างความขั้วของความคิดเห็นและอารมณ์ในระยะยาว เป็นหนึ่งตัวอย่าง งานวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า เรามีแนวโน้มที่จะแบ่งปันอารมณ์ทางลบมากกว่าอารมณ์ทางบวกบนสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเรียกว่า "อคติเชิงลบ" (negativity bias) ซึ่งอาจมีความเด่นชัดยิ่งขึ้นเมื่ออารมณ์เหล่านั้นถูกแสดงออกโดยบุคคลสาธารณะ

ในระดับผู้นำ คนที่ดูมีความสามารถสามารถส่งอิทธิพลต่ออารมณ์กลุ่มในเชิงบวกให้กับสังคมวงกว้าง สามารถสร้างความกลมเกลียว และกระตุ้นความหลงใหล ความยินดี และความสุขให้กับประชาชนที่เค้าปกครอง


กรณีศึกษาไทย: พลังอารมณ์รวมหมู่การเมืองไทย: โซเชียลมีเดียและการขับเคลื่อนทางอารมณ์
  • การชุมนุมทางการเมืองในช่วง พ.ศ. 2553 และ 2556
  • การใช้แฮชแท็ก (#) เป็นเครื่องมือสร้างพลังอารมณ์ร่วม
  • การกระจายอารมณ์ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล


พิธีกรรม

ในระดับที่ย่อยลงมาอย่างพิธีกรรมของแต่ละพื้นที่หรือแต่ละกลุ่ม ก็มีบทบาทสำคัญในการกำกับอารมณ์เหล่านี้ เนื่องจากอารมณ์ไม่ใช่เพียงประสบการณ์เฉพาะบุคคล แต่ยังเป็นประสบการณ์ร่วมที่ส่งผลกระทบหรือถูกผลักดันโดยกระแสสังคมอย่างมีนัยสำคัญต่อกลุ่มหรือสังคมที่มีพิธีกรรมนั้นอยู่ด้วย 

พิธีกรรมเป็นเสมือนเส้นด้ายที่ทอผืนผ้าแห่งอัตลักษณ์ของมนุษย์ เมื่อผู้คนร่วมกันทำพิธีกรรม ไม่ว่าจะเป็นการเดินบนกองไฟหรือพิธีกรรมอื่นๆ พวกเขากำลังสร้างเรื่องราวร่วมกัน และก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือทางสังคมที่ช่วยเชื่อมโยงจิตใจคนในชุมชน แม้ดูเหมือนไร้เหตุผล แต่มันทำหน้าที่สำคัญ 3 ประการ:
  1. สร้างความรู้สึกร่วม: ทำให้คนในกลุ่มรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกัน
  2. หล่อหลอมอัตลักษณ์: สร้างความทรงจำร่วมที่หล่อหลอมความเป็นตัวตนของชุมชน
  3. เชื่อมโยงอารมณ์: กระตุ้นความรู้สึกทางอารมณ์ที่เข้มข้นและลึกซึ้งร่วมกัน
ถ้าเรามองกลไกทางจิตวิทยามันก็คือ
  • Emotional Contagion: การแพร่กระจายอารมณ์แบบก้าวกระโดด
  • Social Proof: การยืนยันความคิดผ่านการเห็นพ้องต้องกัน
  • Negativity Bias: แนวโน้มการให้น้ำหนักกับอารมณ์ทางลบซึ่งจะทำได้ง่ายกว่าทางบวก


ในห้วงขณะของพิธีกรรม จิตวิญญาณของแต่ละคนจะหลอมรวมกับประสบการณ์ของชุมชน ความทรงจำที่เกิดขึ้นจะฝังลึกในจิตสำนึก กลายเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวส่วนตัว นักมานุษยวิทยาชี้ให้เห็นว่า พิธีกรรมไม่ใช่เพียงการกระทำที่ดูไร้เหตุผล แต่เป็นภาษาแห่งอารมณ์และความหมายที่ซับซ้อน ผ่านพิธีกรรม เราเชื่อมโยงตัวเองกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน


ในโลกที่เชื่อมโยงกันอย่างรวดเร็วนี้ อารมณ์กลายเป็นพลังที่มีอานุภาพเหนือการคาดคิด สิ่งสำคัญคือเราต้องเรียนรู้ที่จะเป็นทั้งผู้สังเกตและผู้ควบคุมอารมณ์ร่วม โดยไม่ปล่อยให้ตนเองจมอยู่กับกระแสทางอารมณ์โดยปราศจากการใคร่ครวญ การฝึกคิดอย่างมีวิจารณญาณ การตั้งคำถามกับข้อมูลที่ได้รับ และการระมัดระวังอิทธิพลทางอารมณ์จะช่วยให้เราสามารถตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล มีอิสระทางความคิด และไม่ตกเป็นเครื่องมือของพลวัตทางอารมณ์ที่อาจครอบงำสติปัญญาและดุลยพินิจของเราโดยไม่รู้ตัว




Post a Comment

You can share any idea here.......

Previous Post Next Post

Contact Form