ประสบกาณ์ลอง Ramen ระดับ มิชลิน

คืนวันหนึ่งในระหว่าง 7 วันที่ผมมาพักอยู่ที่ Tokyo โดยที่ไม่มีแผนอะไรเลย ระหว่างที่เหลืออยู่ 2-3 วันกับการที่ไม่มีอะไรทำ เพราะไม่สามารถเปลี่ยนจังหวัดที่พักจากการจองที่พักไว้ล่วงหน้า ก็เริ่มเปลี่ยนแผนไปหาของกิน

ผมเริ่มจากการหาข้อมูลไปเรือยๆ ก็ไปสะดุตรง Michelin Star แต่โดยส่วนใหญ่ร้านอาหารเหล่านี้ต้องจองล่วงหน้ากันหลายๆเดือนหรือว่าอาจจะเป็นปีๆเลย สำหรับคนเพิ่งคิดเพิ่งทำ ก็คงจะไม่ได้

ไปเจอร้าน Ramen ที่ได้ Michelin Star ใน Tokyo หนึ่งดาว และเป็นร้านแรกที่ได้ ซึ่งอัตราการแข่งขันกับคนที่จะไปกินน้อย กับโอกาสของการได้ไปลองชิมก็สูง แล้วอีกอย่างร้านเปิดให้จองที่นั่งวันต่อวันและต้องไปจองที่ร้านด้วยตัวเองเท่านั้น

Tsuta ตั้งอยู่ที่ 〒170-0002 Tōkyō-to, Toshima-ku, Sugamo, 1 Chome−14−1 ซึ่งไม่ไกลจาก Shinjuku ย่านที่ผมอยู่นัก

ทำไงถึงจะได้ไปกิน

ก่อนอื่นเลยต้องตื่นแต่เช้ามาก เพื่อไปจองบัตรคิวตอน 7 โมง และภายในไม่กี่นาที(หรือชั่วโมง) บัตรของวันนั้นก็จะหมดไป สิ่งที่เราต้องทำคือ บอกช่วงเวลาที่เราสะดวกมากิน แล้วเค้าจะให้เป็นบัตรสีให้ (ของผมสีขาว เพราะจะมากิน 11โมง) แล้วเราก็กลับมาร้านตามเวลาที่เราได้บอกเค้าไว้

แต่ละบัตรจองต้องมีการมัดจำไว้ 1000 Yen เพื่อเป็นการันตีว่าจะกลับมากิน และมาตรงเวลาเท่านั้น ไม่งั้นเค้าจะไม่คืนมัดจำ หลังจากที่มาตามเวลาแล้วเค้าจะคืนเงินเพื่อให้เราหยอดเงินที่ตู้กดราเมน ก่อนเข้าไปนั่งภายในร้าน







ประเด็นคือมาก่อนดีกว่า เพระาการประเมิณอาจะไม่แน่นอน เผื่อเวลาเลทไว้ด้วยก็ดี แต่เท่าที่สังเกต ทุกคนมากินๆ แล้วก็รีบไป เหมือนไม่ค่อยได้ Enjoy กับอาหารบรรยากาศเท่าไร

สำหรับคนที่อยากลองกินมากกว่า 1 ชามต้องบอกเค้าด้วยนะครับว่า 2 serving  หรือจะกี่ชามก็แล้วแต่ ห้ามจองแทนกัน 




เมื่อกลับมา ผมก็เดินไปที่ตู้ (ศึกษาเมนูมาก่อนก็ดี เพราะว่าจะได้ไม่งง) ที่ตู้ไม่มีภาษาอังกฤษบอกไว้ว่าเป็นอะไรมีแต่ภาษาญี่ปุ่นกับตัวเลข แต่โต๊ะข้างๆจะมีเมนูภาษาอังกฤษ แล้วก็เลขบอก ให้ดูจากตรงนั้น จำตัวเลขเอามากด


ที่ผมเลือกไปเป็น Wonton Shoyu Soba เพิ่มไข่ กับ Wonton Sio Tsukeba



เริ่มจากเมนูแรก ผมอธิบาย BASED ON ประสบการณ์และไม่ได้เชียร์หรือ BIAS อะไร
ซุป ด้วยความที่เป็น Shoyu รสจึงไม่แรงหรือเข้มมาก แต่เค้าดึงความกลมกล่อมของ Stock ได้โอเค ไม่แรงเกินไป ถ้าคนไทยผมว่าน่าจะออกบางไปนิดนึงค่อนข้ามไปเค็ม แต่แปลกตรงที่ว่ากินไปเรื่อยปรากฏว่าโอเคขึ้นเรื่อยๆ


  • เส้นค่อนข้างเหนี่ยวนุ่มออกแนวสปาเกตตี้เลย
  • ผงดำๆ นี่คือ Truffle Powder ผมลองกินปล่าวๆนิดนึงเหมือนออกแนวผงชูรสเลย มันมีรสชาติที่ complicated มากๆ
  • Wonton ไม่อร่อยสำหรับผม แต่มีความปราณีตในการเตรียมและทำมาก หมูมาจาก Okinawa แต่มีรสเปรี้ยวนิดๆอยู่
  • ไข่ Ajitama (สั่งแยก) ตัดออกมาแดงมาก น่ากิน อร่อย
  • หมูชาชู เป็น Pork loin จาก Italy นุ่มแต่ความหอมกับรสชาติไม่พุ่งพล่าน ออกแนวเบาๆ
  • Braised Pork อันนี้จะไสลด์มาเหมือนแฮมมากกว่า






หลังจากลองเมนูแรกไป ไม่ได้ถึงขนาดว่าตาวาวเท่าไร ก็ทาง Waiter ก็เลยบอกให้ทำชามที่สองมาซึ่งเป็นแบบ แยกเส้นแยกซุป เราจะมากินแบบ Dip กัน
  • เส้น สามารถเลือกได้ระหว่าง Hot หรือ Cold ผมเลือก Hot เพราะไม่อยากจุ่มไปแล้วเส้นทำให้ซุปเย็นเรื่อยๆ ค่อนข้างนุ่มเหนียวเลย เหมาแก่การจุ่มมากๆ
  • หมูชาชูตอนแรกไม่รู้จะกินยังไงเพราะมันเล็กมากๆก็เลยเอาเข้าปากเลย รู้สึกว่าน้อยไปหน่อย
  • Braised Pork เค้าราด Spicy Mayo ให้ Creamy หน่อยๆอร่อยเผ็ดๆดี
  • Wonton เหมือนเดิม ไม่อร่อย แต่สั่งผิดมา ตอนแรกว่าจะไม่เอา Wonton สำหรับชามนี้
  • ซุป มีความข้ม และ Creamy หลังจากที่จุ่มเส้นลงไปแล้ว แล้วกินไปหน่อย โอ้วววว....มัน อร่อยมาก ซุปนี้เป็น Salt based คือเค็มไม่เหมาะกับการซด (เนื่องจากเค้าจะทำให้เข้มข้นอีกนิดนึง เพราะเรากินเส้นติดน้ำซุปใน Portion ที่ต่ำ) แต่เอาเส้นจุ่มนิดนึงแล้วกินอร่อยลงตัวมากๆ และ
  • ผัก ไม่แน่ใจว่าผักอะไร แต่มีความสด หวาน และกรอบมากๆ มีแค่ชิ้นเดียว

สรุปชามที่สองผมชอบมาก เสียดายที่เค้ามี Miso based แต่ท้องผมไม่ไหวแล้ว ไม่สามารถกินได้อีกต่อไป ตอนแรกจะกินเหลือ แต่ก็เกรงใจดาว Michelin ก็เลยกินจนหมดเลย 




Post a Comment

You can share any idea here.......

Previous Post Next Post

Contact Form