การสื่อสารระหว่างกันเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก ในชีวิตประจำวัน ในทุกๆวันเราต้องพบกับข้อมูลและสารที่ต้องการจะสื่อกับเรามากมาย จนแทบรับไม่ไหว แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนที่เรากำลังสื่อสารอยู่ ไม่ว่าจะเป็นแบบตัวต่อตัว หรือเป็นแบบกลุ่ม เค้าเข้าถึงและเข้าใจในสิ่งที่เราต้องการจะสื่อได้จริงหรือไม่ ซึ่งคำถามนี้จะรู้และสังเกตได้จากสัญญาณต่าง ๆ ต่อไปนี้
- มีความพยายามเกิดขึ้น
- แสดงความชื่นชมแบบไม่ต้องเรียกร้อง
- แสดงความเปิดเผยมากขึ้น
- สื่อสารกันเพิ่มมากขึ้น
- สนุกสนานกับประสบการณ์ที่เกิดขึ้นร่วมกัน
- มีอารมณ์ร่วมกัน
- เกิดพลังงานในทางบวก
- ผนึกกำลังกันมากขึ้น
- มอบความรักแบบไม่มีเงื่อนไข
สังเกตไหม แค่การขยันทำงานอย่างเดียวไม่เพียงพอ การที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น เราต้องรู้จักที่จะสื่อสารกับผู้อื่นอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในทุก ๆ วัน อย่างที่ได้กล่าวไ้ว้เราได้รับข้อมูลมากมาย ไม่ว่าจะโฆษณา สื่อ เฟสบุค ทวิตเตอร์ ดังนั้นเราจำเป็นจะต้องเลือกบริโภคข้อมูลที่ตนสนใจจริง ๆ แล้วทำอย่างไรหล่ะ ถึงจะก้าวข้ามกำแพงเหล่านั้น เพื่อส่งสารที่เราต้องการไปถึงผู้รับอย่างมีประสิทธิภาพ
การสร้างความสัมพันธ์ เพื่อเข้าถึงจิตใจของผู้อื่น ต้องเรียนรู้วิธีเข้าถึงจิตใจ เห็นอกเห็นใจ จากข้อมูลใน นิตยสาร Havard Business Review กล่าวไว้ว่า
“ปัจจัยสำคัญอันดับหนึ่งที่จะกำหนดความก้าวหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั้นตือการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นนั้นเอง”
ต้องอธิบายให้รู้ถึงทิศทางที่เราจะมุ่งไป ต้องโน้มน้าวให้ประชาชนเดินหน้าไปพร้อมกับเขา สร้างความสัมพันธ์กับบุคคล และแสดงให้เห็นถึงควมน่าเชื่อถือ เช่น การรักษาคำพูด หรือลงมือแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรม
โรเบิร์ต ดัลเลค นักประวัติศาสตร์ด้านประธานาธิบดี กล่าวถึงคุณลักษณะที่จะทำให้ทำงานสำเร็จลุล่วง ได้แก่
- การมีวิสัยทัศน์
- การลงมือแก้ปัญหาได้
- การสร้างความเห็นชอบร่วมกัน
- ความมีเสน่ห์ดึงดูด
- ความไว้ใจได้
ประโยชน์ของการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น
“ การจะเชื่อมโยงสิ่งใดเข้าด้วยกัน ต้องนำของสิ่งนั้นมาประสานกัน แต่การสร้างความสัมพันธ์นั้นจะต้องมีความเห็นอกเห็นใจกัน “ ความเห็นจาก ทอม มาร์ติน นักธุรกิจสังเกตก่อนการเริ่มงานสังคมใด ๆ เวลานัดมักจะเผื่อไว้ก่อนเวลาจริงเสมอ บางทีผมก็คิดว่าเผื่อไว้สำหรับการที่มาสาย แต่จริงแล้วอาจเป็นการสร้างโอกาส หรือ Connection กันก่อนเริ่มงานก็ได้ คุณจะก้าวไปถึงศักยภาพสูงสุดของตัวเองได้ ก็ต่อเมื่อคุณต้องเรียนรู้การสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นก่อน
การสร้างความสัมพันธ์ เพื่อปกป้องตัวเราเองจากเหตุการณ์ที่อาจะเป็นภัยกับเราในวันข้างหน้า เช่นสนิทสนมกับครูในชั้นเรียน กับยามในตึกออฟฟิศ เพื่อสร้างความพิเศษ หรือสร้างทางลัดไปสู่ความสำเร็จด้านต่าง ๆ ที่เหนือกว่าคนอื่น ๆ
ความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง ในบางครั้งเรารู้ตัวเองว่าเราบกพร่องด้านใด และมีความกล้าหาญที่จะยอมรับจุดด้อยเรานี้ แต่เราไม่รู้วิธีการปรับปรุงมัน การพูดคุยกันให้มากขึ้น บางที่ก็เหมือนจะยังไม่ใช่คำตอบ การเริ่มต้นที่จะสัมพันธ์กับผู้อื่น ต้องเริ่มจากการเข้าใจในคุณค่าของคนอื่น ใส่ใจผู้คนและผลกำไร มองลูกน้องในแง่บวก ขอคำแนะนำจากลูกทีม และตั้งใจรับฟังทุกคน
หลักการเริ่มต้น
- สนใจผู้อื่น พูดเรื่องของอีกฝ่ายให้มากขึ้น พูดถึงตัวเองน้อยลง คนเราชอบพูดถึงเรื่องของตัวเองมากกว่าที่จะฟังเรื่องของผู้อื่น เตรียมประโยคสนทนาไว้สัก 2-3 ประโยคก่อนเริ่มงานสังคม
- ให้ผู้อื่นรู้ว่าคุณตื่นเต้นที่ได้มาอยู่กับพวกเขา สื่อสารให้เขารู้ว่ามีความสำคัญกับคุณ หรืองานในครั้งนี้
- หาทางพูดชมคนในกลุ่มในทางที่ดี หรือให้ความสำคัญกับสิ่งที่คนในกลุ่มเสนอ สร้างคุณค่าให้กับวงสนทนา อย่าเอาความดีความชอบของกลุ่มมาใส่ตัว และอย่าชี้นิ้วหาคนผิดเมื่อเกิดควาผิดพลาด
- สร้างความสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ ด้วยการทำสิ่งอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากคำพูด การได้ทำอะไรร่วมกัน ย่อมทำลายกำแพงน้ำแข็งระหว่างกัน หรือการมอบอะไรเล็กๆน้อย ๆ ก็ช่วยต่อความสัมพันธ์ให้รวดเร็วขึ้น เช่นคำพูดที่มีประโยชน์ ของฝาก หนังสือดี ๆ หรือซีดี
- มีความกระตือรือร้นในการสร้างความสัมพันธ์ หลังจากได้มีโอกาสพูดคุยแล้ว พยายามเสนอตัวช่วยเหลืออะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ พยายามติดตามผล การได้ทำอะไรให้นั้นมีผลต่อความรู้สึกในระยะยาวมากกว่าการสนทนาเสียอีก
- หาทางให้เกิดการเฉลิมฉลองความสำเร็จกัน
- เรียนรู้ว่านักพูดเก่ง ๆ เค้าสร้างความสัมพันธ์กันอย่างไร
ทักษะที่ควรฝึกฝนเพิ่มเติม
- ค้นหาจุดยืนร่วมกัน
- ทำให้การสื่อสารเป็นเรื่องง่าย ๆ
- ดึงดูดความสนใจของผู้อื่น
- สร้างแรงบันดาลใจให้พวกเข้า และ มอบความจริงใจให้
สื่อสารอย่างไม่เข้าใจ
ถ้าคุณไม่รู้ว่าผู้รับสารต้องการอะไร คุณยัดเยียดอะไรไปเค้าก็ไม่รับข้อมูลคุณหรอก อย่ามองว่าเราเป็นจุดศูนย์กลางของการสนมนา พิธีกรที่ดีย่อมไม่ทำตัวเด่นไปกว่าแขกรับเชิญ ถึงแม้ว่าบางทีชื่อคุณอาจจะขายได้ในงาน แต่คงไม่มีใครอยากฟังเรื่องราวซ้ำ ๆ ซาก จากคุณหรอกว่าไหม ?
“ทำไมคนอื่นถึงไม่เชื่อฟัง”
“ทำไมคนอื่นถึงไม่ทำตามผม”
“ทำไมคนอื่นถึงไม่ช่วยผม”
คำตอบก็เห็นชัด ๆ อยู่แล้ว ว่ามีแต่เรื่อง ผม ผม ผม ผม อยู่เต็มไปหมด หมกมุ่นอยู่กับเรื่องของตัวเอง ความคิดของตัวเอง
วันที่ได้พบกับแสงสว่าง
“ถ้าคุณรู้จักช่วยให้คนอื่นได้รับสิ่งที่เขาต้องการเสียก่อน คนเหล่านั้นก็จะช่วยให้คุณได้รับสิ่งที่คุณต้องการเหมือนกัน” ซิก ซิกลาร์ นักพูดเราหลายคนพยายามให้โลกเดินไปข้างหน้าด้วยการไปแก้ไขที่คนอื่น ๆ เพราะคิดว่ามันจะเห็นผลมากกว่า สิ่งที่ต้องทำคือการ ดัน ดัน ดัน ดัน มันออกไปให้เป็นอย่างที่ใจคิดเท่านั้น ทั้งที่จริงแล้วควรจะเข้าใจความต้องการของคนอื่น ๆ มากกว่า เปลี่ยนจุดสนใจจากตัวเราไปสู่ภายนอก จากตัวเองไปเป็นบุคคลอื่น
วุฒิภาวะ
สิ่งที่สำคัญของการเปลี่ยนแปลงคือ วุฒิภาวะ (ความสามารถมองเห็นและทำอะไรเพื่อผู้อื่นได้) การมองภาพกว้าง โดนัลด์ มิลเลอร์ ผู้เขียนเรื่อง Blue Like Jazz เปรียบเทียบความไม่เป็นผู้ใหญ่เหมือนกับการที่เราคิดว่า ชีวิตคือภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่เราเป็นพระเอก ซึ่งเด็ก ๆ ผมเป็นบ่อย บางที่ตอนอายุเท่านี้ผมก็ยังเป็น คนเหล่านี้แทบไม่สนใจว่าคนอื่นจะได้รับผลประโยชน์อย่างไร ถึงจุดหนึ่งที่คนเหล่านั้นพร้อมเค้าก็จะเดินจากไปจากคุณอย่างง่ายได้บางที่วุฒิภาวะก็ไม่ได้โตตามอายุของเราไป เพราะลึก ๆ เราต่างต้องการรู้สึกว่าตัวเองมีความสำคัญทั้งนั้น คนที่มีวุฒิภาวะเท่านั้นที่จะให้ความสำคัญกับคนอื่น และสามารถสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นได้อย่างแท้จริง
อีโก้ซิสเต็ม EGOSYSTEM
แน่นอนคนที่มีอำนาจ มักจะมี EGO ที่สูงมาก บางทีมันก็กลายเป็นว่า EGO ไปสร้างกำแพงระหว่างเรากับผู้อื่น จนเรามองไม่เห้นความสำคัญของผู้อื่น เมื่อผู้อื่นรู้สึกว่าตนเองไม่สำคัญ แม้ว่าจะเคยรักและชื่นชมเราแค่ไหน วันหนึ่งเค้าก็ต้องถอยห่างคิดว่าภาษาอะไรสำคัญที่สุดในโลกการค้า แน่นอน หลาย ๆ คนคงนึกถึงภาษาอังกฤษที่มีผู้เรียนมากที่สุด ภาษาจีนประเทศที่มีประชากรมากสุด และมีกำลังการผลิตในราคาที่ต่ำจนน่าตกใจสุด หรือไม่ก็ญี่ปุ่นผู้ แต่แท้จริงแล้วคำตอบที่เราคาดไม่ถึงรวมทั้งผมก็คือ “ภาษาของลูกค้า” ต่างหาก
กับดักของการจดจ่ออยู่กับตัวเองมากไป นั้นคือ ขาดความมั่นใจในตัวเอง เมื่อเราขาดความมั่นใจ เราก็มักจะจดจ่ออยูกับเรื่องของตัวเอง จนทำให้ขาดความสัมพันธ์กับผู้อื่น สุดท้ายงานก็ไม่สำเร็จ
มีกรณีศึกษาการเปิดร้านกาแฟที่เป็นแบบซื้อกลับไปทานที่บ้าน ในประเทศที่มีวัฒธรรมการนั่งดื่มกาแฟในร้าน ต้องใช้เวลานานจนเกือบจะไม่รอด กว่าที่จะเข้าใจคำถามของลูกค้าที่คอยถามถึงที่นั่ง หรืออาหารว่าอยู่ตรงไหน เพียงแค่เราไม่เข้าใจลูกค้าเท่านั้นเอง
"เราไม่ได้อยู่ในวงการกาแฟที่คอยให้บริการผู้คน แต่เราอยู่ในวงการที่เกี่ยวข้องกับผู้คน แล้วคอยให้บริการเสริฟกาแฟต่างหาก “ นาบี ชาเลห์
คำถามที่ผู้คนจะถามเกี่ยวกับตัวคุณ
- คุณห่วงใยฉันหรือปล่าว
- ช่วยเหลือผมได้หรือปล่าว ไม่มีใครสนใจ feature เลิศหรูของ Product หากว่า Product นั้นไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเขาได้เลย
- ไว้วางใจคุณได้หรือปล่าว บางทีความรักที่ว่ามีพลังยึดเหนี่ยวมากมาย ก็พ่ายแพ้หากไร้ซึ่งความไว้ใจ
“ ไม่มีใครอยากถูกตามตื้อให้ซื้อสินค้า แต่อยากถูกตามมาให้ความช่วยเหลือ “
เรียบเรียงจาก Everyone Communicates Few Connect ของ John C. Maxwell
Tags:
BLOG