เป็นหนังสือที่ Controversial หน่อยๆ เกี่ยวกับ Culture การทำงานของพนักงานที่ Netflix จนทำให้ไปหามาอ่าน ซึ่งเนื้อหาที่ hook หรือดึงความสนใจผมจะเป็นการเริ่มจากการที่ Netflix ไล่พนักงานเก่งๆออก
ซึ่งปกติเราจะได้ยินแค่การไล่พนักงานไม่อาจจะไม่เหมาะสมกับงาน หรือทำได้ไม่ตรงมาตรฐาน หรือความคาดหวังขององค์กร แต่ Netflix ไม่มีบุคคลเหล่านั้นอยู่แล้ว ซ้ำยังไล่คงที่เก่งอยู่แล้วออกอีก คงเหลือแต่พวก Topnotch จริงๆ
“Keep 80 highest performers and let go 40 less amazing ones”
จากนั้นคนที่เหลือเค้าก็จะเปย์ด้วยเงินเดือนสูงๆ แบบว่าถ้าบริษัทอื่นมาซื้อตัวและให้สูงกว่า ก็เดินมาขอเงินเดือนขึ้นได้เลย
มันมีข้อดีและข้อเสีย
- แน่นอนการทำงานกดดันโคตรๆ สอนให้รู้จักการรับผิดชอบจาก consequence จาก Decision ตัวเองการ Encourage ให้พนักงาน Bet หรือ Take Risk มากกว่านั่งเฉยๆไม่ทำอะไร
- การไม่มี Layer of approval หรือ approval rule เปิดโอกาสให้พนักงานทั่วไป Sign deal ระดับ Billion USD ได้เอง แต่ถ้าอ่านดีๆ จะเห็นว่ามีฝ่ายกฏหมายมา Review ความเสี่ยงให้ก่อนแล้ว เพราะฉะนั้น Risk ไม่ได้เรียกว่า 100%
- การทำงานแบบมีพักร้อนไม่จำกัด ให้พนักงานในทีมจัดการ schedule กันเอง ถ้าคนที่ทำงานในสาย tech แบบนี้ มันจะมีการทำงานแบบ Work stream และ Squad ซึ่ง บริษัทไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายในเรื่องของวันลา แต่ให้ Squad และ Work stream จัดการกันเอง ( กดดันที่ leader ต้องเป็นตัวอย่างในการลา ไม่ให้น่าเกลียดเกินไป)
- การไม่ใช้ KPI ในการวัดผลกับกลุ่มงานด้าน Creative เพราะส่งผลต่อความเครียดและทำให้สร้างสรรค์งานได้ไม่ดี
- การให้ Feedback แบบเปิดเผยและตรงๆ ซึ่งชัดเจนว่า Culture Asia อย่างเรามันไม่ใช่ หนังสือมีเล่าถึงประเด็นนี้เหมือนกัน การให้ Feedback สำหรับบางชาติเช่นฝรั่งเศส จะง่าย เพราะว่าเค้าเป็นแบบนั้น แต่ญี่ปุ่น ไทย จะลำบาก เอาเข้าจริง อเมริกาก็ไม่ได้พูดตรงๆนะ พูดอ้อมด้วยซ้ำไป
- การบริหารองค์กรอย่างทีมนักกีฬา มีแต่ตัวจริงๆเก่งๆ ทำไม่ได้ก็เปลี่ยนออก ไม่ได้ลงสนามบ่อยๆก็ปลดออก ไม่ใช่แบบ Family ที่จะมาประคบประหงม
เคยมีคำพูดที่เคยได้ยินมาว่าองค์กรที่บริหารแบบ family ก็ไม่ใช่ว่าจะได้ดี เพราะว่าทุกคนจะได้รับการให้อภัย ไม่เด็ดขาด ทำให้องค์ที่มี performance แบบกลางๆ ค่อยเดินถอยหลัง เพราะว่าความประคบประหงม ประณีประนอมนั้นเอง
เป็นหนังสือหักมุม ที่เขียนยกและเสริมภาพลักษณ์องค์กร อ่านสนุก ไม่ได้โหดเหมือนกับที่ได้ยินมา
จับทางคำถามที่เกิดขึ้นระหว่างอ่าน และ คนเขียน provide คำตอบได้หมดเลย