เกาะตาชัย ตอนที่ 1

เมื่อหลายเดือนก่อน ผมเห็นภาพทะเลที่เป็นสีฟ้าใส ตัดกับหาดทรายสีขาวสะอาดและท้องฟ้าสีคราว ปกติผมจะคุ้นๆเกาะชื่อดังๆของประเทศไทยบ้าง แต่ที่นี่ค่อนข้างจะเป็นธรรมชาติมากกว่า มองไม่เห็นมลทินใดๆจากการท่องเที่ยวเลย หลายๆคนในโลกออนไลน์ของผมต่างไปเยี่ยมชมและนำภาพถ่ายที่เห็นนั้นมาแชร์กัน จนผมอดสงสัยและอดถามไปไม่ได้ว่า "ที่นั้นคือที่ไหน" สิ่งที่ผมได้ยินกลับมาคือ "เกาะตาชัย"



เกาะตาชัย
เกาะแห่งนี้ไม่เคยอยู่ในหัวของผม มันอยู่ที่ประเทศไทยหรือปล่าว และอยู่ตรงไหนของไทยกัน หาดสวยๆแบบนี้ผมเดาว่าน่าจะเป็นฝั่งอันดามันแน่ ผมเริ่มค้นหาข้อมูลจาก Google ก็ได้ข้อมูลในเบื้องต้นว่า

เกาะตาชัย ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน และอยู่ไม่ไกลจาก หมู่เกาะสุรินทร์ มากนัก และถูกพบครั้งแรกโดยชายที่ชื่อ ตาชัย ทำให้ตั้งชื่อเกาะตามคนค้นพบว่า เกาะตาชัย




ทำไมถึงตกสำรวจไป
อย่างที่บอกว่าเกาะแห่งนี้ไม่เคยอยู่ในหัวของผม ผมไปสืบรายละเอียดก็พบว่าเกาะแห่งนี้อยู่กลางท้องทะเลฝั่งอันดามัน ซึ่งห่างจากฝั่งออกไปมาก และพึ่งจะเปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเมื่อไม่กี่ปีมานี้ เกาะแห่งนี้อยุู่ไม่ไกลจากอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันมากนัก ซึ่งช่วงเวลาที่เกาะตาชัยสวยงามที่สุดคือเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน จากนั้น เกาะตาชัย จะปิด 6 เดือน เพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟู



ต้องไปให้ได้
ในที่สุดผมได้หาโอกาสเดินทางไปยังเกาะสวรรค์แห่งนี้จนได้ โดยในช่วงที่ผมไปตรงกับช่วงปลายเมษา ซึ่งตามตำราระบุว่าเป็นช่วงเวลาที่กำลังสวยงามพอดี แต่ทว่าก่อนออกเดินทางไม่กี่วันหลังจากที่ผมเริ่มทำการบ้านเรื่องของโปรแกรมท่องเที่ยวในทริปนี้ มีน้องคนหนึ่งทักผมมาว่าเกาะนี้เพิ่งจะโดนพายุไป คนที่ไปท่องเที่ยวติดเกาะไม่สามารถกลับได้จนต้องเอาเรืบรบไปรับแทน

ผมได้ยินข่าวและข้อมูลทำให้ผมตัดสินใจอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจปิด Browser ไปแล้วบอกกับตัวเองว่า เอาวะ ! ทริปนี้ เราจะไปติดเกาะกัน พร้อมกับแจ้งไปยังสมาชิกที่พร้อมจะลุยไปกับผม(หรือปล่าว)

การเดินทางครั้งนี้เราต้องเริ่มจากการค้นหาบริษัททัวร์ที่จะพาเราไปถึงที่หมาย ผมไม่ได้จองไปก่อน เพราะไม่รู้ว่าสภาพอากาศในวันที่เราไปถึงจะเป็นอย่างไร การเดินทางไปยังเกาะต่างๆกลางทะเลจำเป็นจะต้องเช็คสภาพอากาศแต่ละวัน ไม่มีใครสามารถพยากรณ์อากาศได้ แต่กระทั่งเครื่องมือที่ดีที่สุด ในทะเลมีความแปรปรวนของสภาพอากาศค่อนข้างมาก ผมจึงจองก่อนวันเดินทางแค่ 1 วัน

เกาะตาชัยสามารถขึ้นได้ที่ท่าเรือทับละมุ อำเภอท้ายเหมือง อยู่ห่างจากอำเภอเมือง 70 กิโลเมตร ตามเส้นทางสายพังงา-ตะกั่วป่า และเป็นท่าเรือที่อยู่ใกล้อุทยานหมู่เกาะสิมิลันมากที่สุด ซึ่งจากท่าเรือทับละมุใช้เวลาในการเดินทางไป เกาะตาชัย ประมาณ 3-4 ชั่วโมง ซึ่งถ้าคุณซื้อบริการบริษัททัวร์ เค้าจะเพิ่มค่ารถรับส่งคุณที่โรงแรมเข้าไปกับ package ทัวร์อยู่ แล้ว และผมก็แนะนำให่้เป็นอย่างนั้น ราคาที่ผมไปกับ บริษัทเม็ดทรายทัวร์อยู่ที่ 2500-2900 บาทขึ้นกับสถานที่รับส่ง

เลือกทัวร์จงระวัง
การเลือกบริษัททัวร์ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะไปแล้วไม่มีความสุข ผมเคยจองแล้วเจอประสบกาณ์ที่แย่มากตอนผมไปเที่ยวกระบี่ ผมเลือกจากเอเจนท์ที่ตั้งโต๊ะตามสถาที่ท่องเที่ยวใกล้ๆที่พัก ซึ่งจะให้โทษต้องโทษ บ.เอเจนซี่ที่ติดต่อทัวร์ เพราะไม่มีความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ไม่คาดฝันใดๆ และปล่อยให้ผมรอจนถึงเที่ยงกว่าจะมารับ พร้อมกับตัดโปรแกรมทัวร์ของผมออกไปเยอะแยะมาก สุดท้ายโปรแกรมวันนั้นผมต้องยกเลิกไป และเลื่อนไปอีกวันนึงทำให้โปรแกรมเที่ยวภาพรวมผมเสียหายไปกับความไม่รับผิดชอบและประสานงานแย่ๆ แต่ครั้งนี้ผมเลือกบ.เม็ดทราย บอกตามตรงก็ไม่เคยใช้บริการและยังกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีๆอีก ครั้งนี้ผมจึงโทรติดตามบ่อยครั้งมาก และก็มีเรื่องให้เสียวไส้คือ พนักงานติดต่อกลับมาช้าเกิน จนผมคิดว่าอาจจะไม่ติดต่อกลับมาหลังจากโอนเงินไป

ในวันเดินทาง
เราตื่นกันเช้าพอสมควรและไปรอที่ล๊อบบี้โรงแรมตามจุดที่นัดไว้ ปรากฎว่าเมื่อถึงเวลารถตู้ที่ว่าไม่มา ผมก็โทรติดต่อทันที ยังดีที่พนักงานเค้าตื่นมารับสาย(ฟังจากเสียงที่งัวเงียและพยายามจะปรับให้ดูสดใส) เค้าก็ช่วยติดตามให้ จากนั้นรถตู้ก็โทรมาและขอโทษที่มาสาย
"เอาวะมาช้ายังดีกว่าไม่มา"
จากที่ผมพักคือจังหวัดภูเก็ตเดินทางไปพังงาก็ใช้เวลาพอสมควร ผมออาศัยนอนพักก่อนจะใช้แรงทั้งหมดไปกับการดำน้ำครั้งนี้

เกือบชั่วโมงต่อมา ผมก็ได้มาถึงท่าเรือ โดยรถจอดที่สำนักงานของบริษัทเม็ดทรายทัวร์ ที่นี่มีบริการขนมปังกาแฟทั่วไปๆ แต่ผมกับเพื่อนกินรองท้องมาบ้างแล้วจึงไปจัดแจงเรื่องของ snorkel และ ตีนกบ

เปลี่ยนวิธีการอาจทำให้คุณพบประสบการณ์ใหม่ๆ
ปกติผมดำน้ำไม่เคยใช้ตีนกบเลย  เพราะคิดว่าถ้าเกิดไม่ชินกับอุปกรณ์แทนที่จะข่วยอาจจะทำให้เป็นภาระแทน แต่เพื่อนจัดแจงมาให้เรียบร้อย ผมเลยตามเลยอย่างน้อยก็เสียแค่ค่ามัดจำไม่เสียค่าเช่า ซึ่งภายหลังผมพบว่า การใช้ตีนกบในการว่ายน้ำมันทำให้สะดวกและผ่อนแรงไปได้เยอะ ผมไม่มีทักษะด้านนี้แต่พยายามจินตนาการจากสารคดีที่เค้าใช้กันแล้วใช้ image training ทำให้พอเคลื่อนไหวได้ในน้ำเพียงไม่นานก็เริ่มใช้งานมันได้คล่องขึ้น และถ้ามีโอกาสดำน้ำอีกครั้งผมก็คงขาดเจ้าตีนกบนี้ไม่ได้แน่ๆ

พายุกับประสบการณ์เกือบหวาดเสียว
เหตุการณ์คนติดเกาะที่เกาะตาชัย ยังคงเป็น topic ที่วนเวียนในหัวผม และกลายมาเป็นเรื่องพูดคุยกับลูกทีมในเรือ ซึ่งอัธยาศัยดี แชร์ประสบการณ์และแนวคิดเปรียบเทียบของลูกค้า ซึ่งประเด็นหลายประเด็นก็สะท้อนแง่มุมของคนทำงานอยู่ที่นั้น ลูกทีมคนนั้นเล่าให้ฟังว่า ปกติบ.จะไม่ค่อยรับลูกค้าชาวเอเชียนอกจากประเทศไทย เอาตรงๆเลยก็เพราะว่าเงินไม่เยอะ และเรื่องมาก ที่รับคนไทยเพราะว่าเค้าต้องรักษาสภาพคล่องของบริษัทให้มีรายได้หล่อเลี้ยง แต่เค้าดูแลลูกค้าทุกคนเท่าเทียมกันหมด ซึ่งผมก็เห็นด้วยและค่อนข้างประทับใจพอสมควร
ลูกค้าที่เค้าอยากรับมากที่สุดคือ "รัสเซีย" เคยมีเด็กวัยรุ่นกำเงินมาหนึ่งแสนบาทไทย และมาบอกว่าให้จัดทัวร์สนุกๆให้หน่อย ไม่อยากเอาเงินกลับประเทศแล้ว ซึ่งค่าเรือเหมาต่อวันทั้งลำราคาอยู่ราว 8 หมื่นบาท

ผมจึงชวนคุยไปถึงเรื่องประสบการณ์การเจอพายุเมื่อไม่นานมานี้ ลูกเรือคนนั้นชี้ไปที่หัวหน้าดำน้ำ ปกติก็จะเป็นคนใต้ที่พูดอังกฤษคล่องๆ มีรอยสักเต็มตัว ชอบ บ๊อบมาเลย์ เค้าบอกว่าคนนี้เป็นคนที่มีประสบการณ์ตรงในการนอนที่เกาะหลายๆคืนช่วงที่ไม่สามารถออกจากเกาะได้ จริงเค้ามั่นใจว่าจะกลับได้นะ แต่เกรงใจผู้ลูกทัวร์มากกว่า เพราะใครๆก็ต้องห่วงความปลอดภัยของตัวเองไว้ก่อน ที่เกาะตาชัยไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ใดๆ ต้องใช้คลื่นวิทยุเพียงอย่างเดียว จึงเหมือนโดยตัดขาดจากโลกที่ฝั่ง ผมถามถึงเรื่องของที่พัก เค้าบอกว่าที่นั้นไม่มีที่พัก มีเพียงศาลาขนาดใหญ่ พึ่งจะทำห้องน้ำ ไม่มีไฟฟ้าเข้าถึง มีเพียงเครืองปั่นไฟ การมีชีวิตรอดของช่วงนั้นก็คือบนเกาะมีเสบียงอยู่บางส่วนเพียวพอต่อจำนวนคนหลายวัน แต่บางคนก็กินไม่ได้บ้าง และคนที่หาปลาเป็นก็จะออกไปหาปลารอบๆเกาะมาทำอาหารกันกิน ช่วงนั้นผมติดซีรีย์อเมริกันที่ชื่ LOST อยู่ ผมแอบนึกไปถึงอยู่แว๊บหนึ่ง

คนที่ติดเกาะ ให้ความช่วยเหลือและแบ่งปันกัน 3-4 วันที่อยู่บนเกาะ ไม่มีความเครียดอะไรเลยจากคำบอกเล่า เค้านั่งเล่นกันมีกิจกรรมกันทำตลอดเวลา เสมือนว่าไปเที่ยวกันทั้งกลุ่ม แต่สิ่งหนึ่งในใจที่ผมว่าใครก็ต้องกังวลนั้นคือ ภาระความเป็นห่วงของทางบ้าน และหน้าที่การงานที่ต้องไปรับผิดชอบ เพราะเนื่องจากไม่สามารถติดต่อใครๆได้นั่นเอง

เค้าเล่าว่าอย่างวันนี้เราก็ไม่สามารถคาดการณ์ใดๆว่าฝนจะตกนะ เพราะท้องฟ้าก็เริ่มที่มีเมฆขึ้นมาแล้ว ทันใดนั้นฝนก็เริ่มตกทันที


พายุกลางทะเลมันน่ากลัวจริงๆ
พายุว่าน่ากลัวแล้วถ้าเกิดมาเกิดบนเรือกลางทะเลค่อนข้างน่ากลัวกว่าหลายเท่า แต่ดีที่เราเข้ามาใกล้เกาะแล้วอย่างน้อยเราก็แค่ติดเกาะ ไม่เรือล่มหล่ะน่า ท้องทะเลหน้าเกาะสวยมาก แม้จะมีพายุและสายฝนลงมากระหน่ำ แต่ความใสของน้ำทะเลมิได้ถูกบดบังเลยสักนิด เราจำเป็นจะต้องตกลงกันบนเรือในเรื่องของโปรแกรมทัวร์ เพราะตอนแรกเช้าเราจะไปดำน้ำที่หนึ่ง และบ่ายเราจะไปอีกทีหนึ่ง แต่ณ.ตอนนี้เราคงไม่อยากดำน้ำกันท่ามกลางท้องทะเลแบบนี้แน่ๆ


ผมขึ้นฝั่งกันก่อนท่ามกลางที่ฝนกำลังลงมาและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เราจำเป็นจะต้องลดที่ดำน้ำลง 1 ที่ และมาดำรอบๆเกาะง่ายๆแทน แต่ก่อนอื่นเพื่อประวิงเวลาเราในการรอฝนซา เราจะมากินอาหารเที่ยงกันก่อน


Post a Comment

You can share any idea here.......

Previous Post Next Post

Contact Form