คิทาโน ทาเคชิ

บทความนี้ผมไม่ได้เขียนเองแม้แต่ประโยคเดียว ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่อยากให้ทุกท่านได้อ่านครับ


คิทาโน ทาเคชิ 
นักแสดง/ผู้กำกับ/ดาวตลก คนดังแห่งวงการบันเทิงแดนปลาดิบ “ทาเคชิ คิตาโนะ” ได้รับการโหวตให้เป็นผู้ทรงอิทธิพลต่อประเทศ เหนือนักแสดง, นักกีฬา, นักการเมือง หรือคนดังจากทุกวงการของประเทศญี่ปุ่น ในการรวมรวบข้อมูลจากเว็บไซต์ชื่อดัง ทั่วประเทศ – CNNgo รายงาน
       Sankei News ตีพิมพ์ผลสำรวจความคิดเห็นของชาวปลาดิบ ในหัวข้อคนดังที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งรวบรวมความคิดเห็นจากเว็บไซต์ดัง และชุมชนออนไลน์ที่ได้รับความนิยมในประเทศ อาทิ Ameba, Infoseek, Get News และ Nico Nico Douga รวมแล้วมีผู้ร่วมออกความคิดเห็นถึง 265,000 คนเลยทีเดียว ซึ่งผลที่ออกมาก็คือ ทาเคชิ คิตาโนะ ที่คว้าอันดับ 1 ไปครอง
       ชื่อของ ทาเคชิ คิตาโนะ เป็นที่รู้จักดีในระดับนานาชาติ จากบทบาทผู้กำกับภาพยนตร์ที่เชี่ยวชาญพิเศษหนังแนวยากูซ่า อาทิ Fireworks, Sonatine และ Boiling Point เป็นต้น นอกจากนั้นผลงานหลาย ๆ เรื่องของเขายังคว้ารางวัลในเทศกาลภาพยนตร์ทั่วโลกมาแล้วมากมายรวมถึง Dolls และ Zatoichi 




เมื่อไม่นานมานี้ เมื่อไม่กี่ปีก่อน มารดาของเขาสิ้นบุญที่บ้านนอก เขาไปร่วมงานศพ ทั้งๆที่เขาไม่ชอบคุณแม่เลย เพราะคุณแม่ของเขาเอาแต่ขอเงินจากเขา เดือนไหนที่เขาไม่ได้ส่งเงินกลับบ้าน แม่ของเขาจะโทรมา เปิดปากก็ด่าขโมงโฉงเฉง เป็นแม่ประเภทที่เอาแต่เงินจริงๆ ยิ่งทาเคชิดังมากขึ้นเท่าไร แม่ก็ยิ่งขอเงินมากขึ้นเท่านั้น...

แต่เมื่อกลับถึงบ้าน เขาก็ยังอดร้องไห้โฮไม่ได้ เพราะเขายังตะขิตตะขวงใจที่ต้องไปทำงานไกลๆ ไม่ได้อยู่ดูแลคุณแม่ แม้จะเป็นแม่ที่”เอาแต่เงิน” เขาก็ยังอดรู้สึกติดค้างคุณแม่ไม่ได้...
หลังงานศพ ก่อนที่ทาเคชิจะกลับ พี่ใหญ่ของเขาได้ยื่นซองเล็กๆซองหนึ่งให้เขา บอกว่าคุณแม่สั่งนักสั่งหนาว่าต้องมอบให้เขา ทาเคชิเปิดซองออกอย่างระมัดระวัง ในนั้นมีสมุดเงินฝากธนาคารเล่มหนึ่งและจดหมายฉบับหนึ่ง สมุดเงินฝากเป็นชื่อของเขา มีเงินฝากเป็นหลายสิบล้านเยน ในจดหมายเขียนว่า...

“ลูกทาเคชิ ในบรรดาลูกๆของแม่ คนที่ทำให้แม่กังวลมากที่สุดคือลูก ตั้งแต่เล็กลูกไม่ขยันเรียนหนังสือ สุรุ่ยสุร่าย แถมใจกว้างกับเพื่อนฝูง พอลูกจะขอมาสู้ในเมืองหลวง แม่ก็กังวลเพียงว่าลูกจะตกระกำเป็นไอ้จรจัด ดังนั้น แม่จึงบังคับให้ลูกส่งเงินกลับมาให้แม่ทุกเดือน เพื่อจะได้กระตุ้นให้ลูกไปหาเงินให้มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็เป็นการช่วยลูกเก็บเงินอีกทางหนึ่ง เงินที่ลูกให้แม่ แม่ไม่ได้ใช้แม้แต่แดงเดียว พี่ชายของลูกดูแลแม่ดีอยู่แล้ว เงินของลูกก็คือเงินของลูก ตอนนี้ลูกเอาไปใช้ให้คุ้มเถิด”

ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงผมว่ามันยิ่งใหญ่เสียยิ่งกว่าการมีชื่อเสียงในระดับโลกอีกครับ

Post a Comment

0 Comments